สมาคมสินเชื่อทะเบียนรถฯ โต้ข้อมูลสภาพัฒน์ อาจคลาดเคลื่อน

หลังจากที่สภาพัฒน์ เปิดเผยตัวเลขหนี้ครัวเรือนในการแถลงข่าวรายการภาวะสังคมไทย ไตรมาส 3/2566 โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ระบุว่า ไตรมาส 3 ปี 2566 พบการเร่งตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงการขาดสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสินเชื่อที่น่าเป็นห่วงและขยายตัวสูงมาก คือ สินเชื่อรถแลกเงิน สูงขึ้นถึง 40.2%

เอกชน ขอลดค่าไฟลงอีกเหลือ 4.00 -4.10 บาท/หน่วย กระตุ้นเศรษฐกิจ

ธปท.เรียกแบงก์กางต้นทุนละเอียดยิบ เก็บค่ารูดบัตร 1%

ขณะเดียวกัน ในมุมมองของ นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ หรือ VTLA ขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจไม่ครอบคลุม

เพราะจากการสำรวจข้อมูลการดำเนินธุรกิจของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งมีผู้ประกอบการชั้นนำรวม 15 ราย และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถึง 4 ราย มีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถรวมกันมากกว่า 50% พบว่าคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ในช่วงเดียวกันมียอดหนี้คงค้างเติบโตเฉลี่ยไม่เกิน 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จึงคาดว่าตัวเลขการขยายตัวเพิ่มขึ้น 40.2% ตามที่ระบุในข่าวนั้น อาจมาจากตัวเลขการเติบโตของผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาดำเนินธุรกิจในช่วงปีที่ผ่านมา

ผู้ประกอบการแบกรับต้นทุนเพิ่มมากกว่า 50%

และถึงแม้ว่าตัวเลขสินเชื่ออาจดูเหมือนขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ผู้ประกอบการต้องแบกรับต้นทุนในการประกอบธุรกิจที่สูงขึ้นเช่นกัน ทั้งต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% รวมถึงต้นทุนด้านเครดิต (Credit Costs) ทั้งระบบซึ่งสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ส่งผลให้อัตราการทำกำไรต่อสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ

แม้ว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นสินเชื่อที่เป็นทางออกสุดท้ายของประชาชน ก่อนที่ต้องจำใจหันไปพึ่งกู้นอกระบบ แต่ทางสมาคมฯ ก็เข้าใจถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในขณะนี้ แต่เห็นว่าทางแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนระยะยาวคือการทำให้ประชาชนมีวินัยทางการเงิน ลดการใช้สินเชื่ออุปโภคบริโภคที่ใช้ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย

และอยากเห็นการที่ภาครัฐเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งด้านการลงทุน เงินทุน สนับสนุนการสร้างงาน เบิกจ่ายเงินงบประมาณ รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมอื่นๆ ที่เอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยให้เกิดสภาพคล่อง ประชาชนมีรายได้ ลดการก่อหนี้ลงและส่งเสริมให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจะสร้างปัญหาให้ประชาชนต้องเป็นหนี้นอกระบบ ไม่มีทางลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งสร้างปัญหาสังคมในวงกว้าง